ทานอาหารที่บ้านทุกวันก็เบื่อ อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง จะดีแค่ไหนหากได้ทานอาหารอร่อยๆ พร้อมชมวิวเมืองแบบ 360 องศา แค่คิดก็ฟินแล้ว เราขอแนะนำร้านนี้เลย vertigo and moon bar (เวอร์ทิโก้ & มูนบาร์) ร้านอาหารสไตล์รูฟท็อปบาร์ที่แรกของกรุงเทพ ตั้งอยู่ชั้น 61 ของโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพมหานคร บรรยากาศทั่วไปของร้านค่อนข้างสวย วิวรอบๆคือสวยมาก มองเห็นสกายไลน์ของเมืองกรุง ตกแต่งคล้ายๆอยู่ในอวกาศ รับรองได้เลยว่าสวยมาก อาหารก็อร่อยสมราคาเช่นกัน
ตัวร้าน vertigo and moon bar จะแยกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็น Moon Bar (มูนบาร์) บาร์เปิดโล่งชมวิวสวยๆของกรุงเทพ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 17.00 – 01.00 น. แต่เวลาที่ดีที่สุดในการชมพระอาทิตย์ตกก็คือ 18.00-18.30 น. เป็นช่วงที่ท้องฟ้าสวยที่สุด ในส่วนนี้จะมองเห็นวิวฝั่งสาทรและสีลม ที่นี่เหมาะกับการนั่งดื่มค็อกเทล พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกและวิวเมืองของกรุงเทพ เครื่องดื่มที่แนะนำในโซนนี้เริ่มที่
✨ Signature Cocktail “Thai Sabai Mekhong” ค็อกเทลที่มีส่วนผสมมาจาก Lime Juice, Basil Leaves, Soda ราคาเริ่มต้นที่ 570 บาท
✨ Signature Cocktail “Moon Romance” ค็อกเทลที่มีส่วนผสมมาจาก Vodka Melon, Crème de Menthe Green, Peach, Lime ราคาเริ่มต้นที่ 570 บาท
✨ Signature Cocktail “Vertigo Sunset” ค็อกเทลที่มีส่วนผสมมาจาก Malibu, Pineapple Juice, Cranberry Juice, Lime Juice ราคาเริ่มต้นที่ 570 บาท
และส่วนที่สองห้องอาหาร vertigo (เวอร์ทิโก้) ในส่วนนี้ก็มีการเปิดโล่ง เห็นวิว 360 องศาเช่นกัน จะมีรูปแบบคล้ายรูปเรือ โดยจัดโต๊ะที่นั่ง ลดหลั่นกันตามระดับพื้นที่ร้าน เพื่อไม่ให้ที่นั่งในแต่ละส่วน บังวิวกันเอง
โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00 – 23.00 น. ฝั่งนี้จะเห็นวิวสวนลุมพินี จะเน้นอาหารในรูปแบบอิ่มท้อง อาหารจะเป็น a la carte (อะลาคาร์ต) และ Set menu (เซ็ทเมนู) มีเมนูอาหารให้เลือกมากมายอิ่มท้องแน่นอน เมนูแบบ a la carte (อะลาคาร์ต) มีเมนูที่แนะนำ คือ
✨ Olive Oil Poached red River Prawns
✨ Old Fashioned Oxtail Soup, Oxtail Agnolotti, Fine Herbs
✨ Pan – roasted free range Chicken, Tarragon Jus, Baby Carrot Roots, Silky Mash
✨ Vertigo Velvet Chocolate Indulgence
ส่วนอาหารแบบ set menu (เซ็ทเมนู) จะแบ่งเป็น 3 course 4 course และ set menu สำหรับ 2 ท่าน โดยจะให้เลือกจาก appetizer, soup, mainsและdessert จะเลือก course ที่แตกต่างกันก็ได้ ก่อนการเสิร์ฟ set menu (เซ็ทเมนู) จะมีขนมปังให้ทานรองท้องก่อน และเริ่มเสิร์ฟที่ละเมนู เริ่มจาก Alaskan salmon tartare, preserved lemon guacamole, sunflower shoots ตามลำดับ อาหารปรุงได้ดี อร่อยทั้งซอลและเนื้อเข้ากันได้ดีเลยทีเดียว
มาต่อกันที่ซุปข้าวโพด Creamed golden corn soup รชาติกล่อมกล่อม หอมหวานกำลังดี ตามมาด้วยเมนู spiced crab tortellini และซุปลอปสเตอร์ มีกลิ่นหอมมาก รสชาติบางเบาไม่หนักจนเกินไป ก่อนทาน Mains course จะมีผลไม้ให้ล้างปากกันก่อน เริ่มอาหาร Mains course กันเลย เมนูแรก Moorish spiced 55 degree duck เป็ดนุ่มมาก ละลายในปากได้เลย มีกลิ่นหอม ทานคู่กับเครื่องเคียงที่มีรสชาติเปรี้ยวเข้ากันมากเลย สามารถทานต่อไปได้เรื่อยๆ Mains อีกจานเป็นเนื้อวัว Flame grilled Wagyu Sirloin, mash potato, buttered asparagus, wild mushroom jus ที่มาพร้อมกับมันบด เห็ดและไขมันในสันหลังวัว ที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากัน แต่เมื่อทานด้วยกันมันอร่อยที่สุด
เมนูที่แนะนำเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเดียวเท่านั้น หากต้องการลิ้มรสของรอ่ยๆแบบนี้ไปทานกันได้ที่ vertigo and moon bar ได้เลยและที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือการเดินทางแนะนำว่าให้เดินทางด้วยรถสาธารณะ Taxi Grab เป็นต้น เพราะการเดินทางด้วยรถส่วนตัวอาจไม่สะดวกเนื่องจากในเรื่องของที่การจราจรในเขตตัวเมืองที่หนาแน่น โดยเฉพาะในเวลาช่วงเย็น การเดินทางด้วยรถสาธารณะจึงง่ายและสะดวกกว่า เวลาที่ทางบาร์เปิดให้บริการคือ 17.00 – 01.00 น. แต่หากท่านใดที่ต้องการนำรถส่วนตัวไปก็สามารถจอดรถได้ที่ชั้น 59 ของโรงแรมแล้วเดินบันไดขึ้นไป 1 ชั้น
แต่งตัวไป vertigo and moon bar ยังไงดี อีกส่วนที่สำคัญของการไปทานอาหาร vertigo and moon bar คือการแต่งกายเพราะต้องแต่งกายให้สุภาพ ผู้หญิงอาจสวมชุดเดรสยาว รองเท้าส้นสูง หรือาจเป็นชุดกางเกงที่เข้าชุดกับเสื้อแบบสุภาพ ผู้ชายอาจไม่ต้องใส่สูทแต่ต้องสวมรองเท้าหุ้มข้อ กางเกงสุภาพ ห้ามใส่กางเกงขาสั้น และสวมรองเท้าแตะ